4 กิจกรรมท่ามกลางหิมะที่ฮอกไกโด

รายละเอียดเนื้อหา

เทศกาลหิมะซัปโปโร
เทศกาลแสงไฟท่ามกลางหิมะริมคลองโอตารุ
เทศกาลฤดูหนาวอาซาฮิคาวะ
แช่บ่อน้ำพุร้อน
ประกันภัยการเดินทาง
เคล็ดลับการเตรียมเสื้อผ้า
การเดินทาง
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

เมื่อฤดูหนาวมาเยือน ฮอกไกโด (Hokkaido) จะกลายร่างเป็นสวรรค์แห่งหิมะที่ขาวบริสุทธิ์งดงาม โดยนักท่องเที่ยวจะเริ่มชมความงามแบบนี้ได้ตั้งแต่เดือนธันวาคมไปจนถึงกุมภาพันธ์ ฮอกไกโดจะเผยให้เห็นทัศนียภาพอันมหัศจรรย์ของเทือกเขาสีขาว ประติมากรรมน้ำแข็งที่ส่องประกายระยิบระยับ และบ่อน้ำพุร้อนที่ช่วยให้ผ่อนคลายจากความหนาวเย็น ไม่ว่าคุณจะไปเล่นสกีบนเนินที่ปกคลุมด้วยหิมะปุยนุ่ม ตามด้วยการแช่น้ำพุร้อนท่ามกลางหิมะ ลิ้มรสราเมนร้อนๆ ฮอกไกโดก็ตอบโจทย์ เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของนักกิจกรรมฤดูหนาวเลยก็ว่าได้ จะร่วมกิจกรรมได้อย่างสนุกปลอดภัย และสบายใจอย่าลืมให้ประกันเดินทางจากคุ้มภัยโตเกียวมารีนดูแลคุณและครอบครัว

ซื้อประกันเดินทาง คลิก

กิจกรรมยอดนิยมช่วงฤดูหนาวในฮอกไกโด

1. เทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival)

เริ่มต้นด้วยเทศกาลหิมะซัปโปโรถือเป็นงานฉลองฤดูหนาวที่เป็นสัญลักษณ์ของฮอกไกโด ที่ดึงดูดผู้ชมกว่า 2.3 ล้านคนทั่วโลกในแต่ละปี โดยมีประติมากรรมหิมะแกะสลักและน้ำแข็งขนาดใหญ่ตระการตา เรียงรายตามสวนโอโดริ (Odori Park) ประติมากรรมบางชิ้นมีความสูงเท่าอาคารหลายชั้น ที่ถ่ายทอดภาพสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียง ตัวละครตัวโปรด และการออกแบบทางศิลปะที่น่าทึ่ง เมื่อปี 2568 ผู้เข้าร่วมประกวดจากประเทศไทยยังได้คว้ารางวัลรองชนะเลิศในการประกวด International Snow Sculpture ครั้ง 49 อีกด้วย เรียกได้ว่าเราได้มีโอกาสนำเสนอศิลปะและวัฒนธรรมไทยสู่สายตาชาวโลกในเทศกาลนี้ด้วย

สถานที่หลัก: เทศกาลนี้กระจายตัวอยู่ตามสถานที่หลักสามแห่ง
- สถานที่จัดงานโอโดริ (Odori Site): เป็นที่ตั้งของการประกวดประติมากรรมหิมะนานาชาติ (International Snow Sculpture Contest) ซึ่งมีความยิ่งใหญ่ตระการตา
- สถานที่จัดงานซึซึกิโนะ (Susukino Site): มีชื่อเสียงด้านประติมากรรมน้ำแข็งที่มีรายละเอียดซับซ้อนและมีการประดับไฟยามค่ำคืน
- สถานที่จัดงานซึโดมุ (Tsudome Site): เป็นโซนที่เหมาะสำหรับครอบครัว โดยมีกิจกรรมสนุกๆ เช่น สไลเดอร์หิมะ และการล่องแพหิมะ (Snow Rafting)
ช่วงเวลา: จัดขึ้น 8 วันในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ สามารถติดตามข่าวสารการจัดงานได้ที่เว็บไซต์หลัก
เคล็ดลับ: การชมประติมากรรมตอนกลางคืนจะงดงามเป็นพิเศษ เนื่องจากมีการประดับไฟ ควรแต่งกายด้วยเสื้อผ้าหลายชั้นเพื่อป้องกันความหนาวเย็น และอย่าลืมรองเท้าที่สำหรับเดินบนหิมะเพื่อความปลอดภัย

2. เทศกาลแสงไฟท่ามกลางหิมะริมคลองโอตารุ (Otaru Snow Light Path Festival)

อีกหนึ่งเทศกาลที่ใครมาเทศกาลหิมะซัปโปโรแล้วจะพลาดไม่ได้ เพราทั้ง 2 เทศกาลจะจัดให้มีคาบเกี่ยวกับเสมอ นักท่องเที่ยวก็ไปเที่ยวต่อที่เมืองคลองเก่าแก่โอตารุได้เลย ซึ่งเทศกาลประดับไฟนี้จะเนรมิตคลองโอตารุให้จะกลายเป็นทิวทัศน์ในฝันสุดโรแมนติก ด้วยเทียนหิมะและตะเกียงนับพันจะส่องแสงระยิบระยับไปตามคลองโอตารุและถนนสายประวัติศาสตร์ในย่านเมืองเก่า ซึ่งบรรยากาศที่อบอุ่นแบบนี้จะให้ความรู้สึกแตกต่างจากเทศกาลหิมะซัปโปโรอย่างชัดเจน ไหนๆ ไปเยือนฮอกไกโดทั้งที แนะนำเที่ยวชมให้ครบทั้ง 2 เทศกาล ถ้าสนใจอยากได้รายละเอียดเพิ่มเติมก็ไปอ่านต่อได้ที่บทความเที่ยวโอตารุฤดูหนาว...สัมผัสความโรแมนติกท่ามกลางหิมะ

ช่วงเวลา: จัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ มักจะคาบเกี่ยวกับช่วงท้ายของเทศกาลหิมะซัปโปโร (ทำให้เที่ยวได้ทั้งสองงานในทริปเดียว)
การเดินทาง: นั่งรถไฟ JR Rapid Train จากซัปโปโรประมาณ 40 นาที
เคล็ดลับ:เวลาชมการประดับไฟที่ห้ามพลาดคือ ตั้งแต่เวลา 17:00 น.- 21:00 น. ระหว่างรอไฟเปิดก็ เดินเล่นสำรวจเวิร์คช็อปเครื่องแก้ว พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี และชิมอาหารทะเลตามร้านบนถนนซาคาอิมาจิไปพลางๆ

3. เทศกาลฤดูหนาวอาซาฮิคาวะ (Asahikawa Winter Festival)

เทศกาลหิมะที่ยิ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของฮอกไกโด หากคุณยังไม่จุใจกับการชมปติมากรรมหิมะจากเทศกาลหิมะซัปโปโร ก็มาต่อกันที่เทศกาลฤดูหนาวอาซาฮิคาวะ ที่จัดขึ้นริมแม่น้ำอิชิคาริอันงดงาม โดยมีการจัดแสดงปะติมากรรมหิมะแกะสลักจากศิลปินระดับโลกน่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กับเทศกาลหิมะซัปโปโรเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้คุณสามารถสนุกไปกับกิจกรรมต่างๆ เช่น สไลเดอร์หิมะ การขี่สโนว์โมบิล และยังสามารถเพลิดเพลินกับร้านอาหารที่ช่วยเพิ่มความอบอุ่นอย่างราเมน และชินโคยากิ(Shinkoyaki) ไก่ย่าง และจุดที่พลาดไม่ได้เลยก็คือการแสดงดอกไม้ไฟตระการตาที่ให้สีสันตัดกับหิมะสีขาว รับรองว่าประทับใจอย่างแน่นอน

ช่วงเวลา: จัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ มักจะคาบเกี่ยวกับช่วงท้ายของเทศกาลหิมะซัปโปโร (ทำให้เที่ยวได้ทั้งสองงานในทริปเดียว) สามารถเช็ควันจัดงานได้ที่เว็บไซต์หลัก
การเดินทาง: นั่งรถไฟ JR Limited Express จากซัปโปโรไปสถานีอาซาฮิคาวะ (ประมาณ 1 ชั่วโมง 25 นาที)
เคล็ดลับ: เมืองอาซาฮิคาวะมีอากาศหนาวเย็นกว่าซัปโปโรมาก ดังนั้นควรใส่เสื้อผ้าที่อบอุ่นสามารถกันลมและกันน้ำได้ หากใครมีเวลาระหว่างวันอย่าลืมแวะไปเที่ยวสวนสัตว์อาซาฮิยามะ ชมความน่ารักของขบวนพาเหรดนกเพนกวินก่อนไปงานเทศกาล

4. แช่บ่อน้ำพุร้อน (Onsen) ยามหิมะโปรย

การแช่ออนเซ็นกลางแจ้ง (Rotenburo) ขณะที่หิมะโปรยปรายลงมาเป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดในฤดูหนาว คุ้มภัยโตเกียวมารีนขอแนะนำ เมืองออนเซ็น 2 แห่งที่จะให้คุณแช่ออนเซ็นกลางแจ้งพร้อมชมธรรมชาติในฮอกไกโด

โนโบริเบทสึ ออนเซ็น (Noboribetsu Onsen)

บ่อน้ำน้ำพุร้อนชั้นนำของฮอกไกโด มีชื่อเสียงจากหุบเขานรก (Jigokudani) ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดไอน้ำและกำมะถัน มีน้ำแร่ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ 9 ชนิด ซึ่งแต่ละชนิดเชื่อกันว่ามีประโยชน์ในการรักษาที่แตกต่างกัน คุณสามารถผ่อนคลายในบ่อน้ำพุร้อนมากมายของเมือง แม้ว่าคุณจะไม่ได้พักค้างคืน โรงแรมใหญ่ๆ หลายแห่งก็เปิดรับนักท่องเที่ยวให้เข้ามาใช้บริการออนเซ็นภายในโรงแรมได้ นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงยังมีเส้นทางชมธรรมชาติ ทางเดินไม้ที่สามารถเดินเยี่ยมชมหุบเขานรก (Jigokudani) ได้อีกด้วย

การเดินทาง: โนโบริเบทสึอยู่ห่างจากสนามบินชิโตเสะแห่งใหม่ (New Chitose Airport) 75 นาที โดยรถบัสตรง หรือคุณสามารถนั่งรถไฟ JR ไปยังสถานีโนโบริเบทสึ ตามด้วยรถบัสอีก 15 นาทีไปยังบริเวณออนเซ็น

โจซังเค ออนเซ็น (Jozankei Onsen)

โจซังเค ออนเซ็น ตั้งอยู่ในหุบเขาที่มีทิวทัศน์สวยงาม และอยู่ห่างจากใจกลางซัปโปโรโดยรถยนต์เพียง 50 นาที ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับ หรือการพักค้างคืนเพื่อการผ่อนคลาย

เมืองนี้เป็นที่ตั้งของเรียวกังและโรงแรมหลายแห่ง ซึ่งมีทั้งบ่อน้ำพุร้อนในร่ม และบ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้ง (rotenburo) ที่มอบทิวทัศน์อันน่าทึ่งของหุบเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ ตามถนนสายหลัก คุณยังจะพบกับ บ่อแช่เท้า ที่นักท่องเที่ยวสามารถแวะมาแช่เพื่ออบอุ่นร่างกายขณะเดินชมทิวทัศน์ฤดูหนาวได้

การเดินทาง : มีรถบัสตรง ให้บริการจากสถานีซัปโปโรไปยังโจซังเค (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง)และโรงแรมบางแห่งมีบริการรถรับส่งฟรี

มารู้จักการแช่ออนเซ็นกัน

บริการออนเซ็นส่วนใหญ่ในญี่ปุ่น กำหนดให้ผู้ใช้บริการต้อง แช่น้ำโดยไม่สวมเสื้อผ้า โดยมีบ่อสำหรับแช่แบบแยกสำหรับผู้ชายและผู้หญิง
จะมีผ้าขนหนูผืนเล็กเตรียมไว้ให้เพื่อปกปิดร่างกายในขณะเดิน แต่ ไม่ควรนำผ้าขนหนูนี้ลงไปในอ่างน้ำ
โรงแรมหลายแห่งมี แพ็คเกจแบบใช้บริการรายวัน (Day-use plans) ซึ่งรวมการอาบน้ำและอาหารกลางวันไว้ด้วย

ประกันภัยการเดินทาง

การมีประกันภัยการเดินทางช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างอุ่นใจ ไม่ต้องกังวลถึงค่ารักษาพยาบาลกรณีบาดเจ็บ หรือเจ็บป่วยเนื่องจากอากาศหนาวเย็น การเดินทางจะสนุปและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นอย่าลืมให้ประกันเดินทางจากคุ้มภัยโตเกียวมารีนดูแลคุณและครอบครัว

ซื้อประกันเดินทาง คลิก

เคล็ดลับการเตรียมเสื้อผ้าก่อนไปฮอกไกโดฤดูหนาว

แนะนำให้สวมเสื้อผ้าหลายชั้น

ชั้นในสุด ช่วยให้ร่างกายแห้งโดยการดูดซับความชื้น ชุดลองจอน เสื้อฮีทเทค หรือผ้าวูไหมพรม
ชั้นกลาง ให้ความอบอุ่น เช่น ผ้าฟลีซหรือเสื้อแจ็คเก็ตดาวน์ขนเป็ด
ชั้นนอก ป้องกันหิมะและลม แนะนำเป็นเสื้อโค้ทกันน้ำและกันลม

อุปกรณ์กันหนาวที่จำเป็น:

รองเท้าบูทกันน้ำ พร้อมพื้นกันลื่นสำหรับเดินบนหิมะ
หมวกที่ให้ความอบอุ่นทั่วศีรษะ, ถุงมือหุ้มฉนวน, ผ้าพันคอหรือผ้าพันคอคลุมคอ
แผ่นแปะร้อนแบบใช้แล้วทิ้ง สามารถเลือกแบบแปะตามตัวหรือเท้าได้ ช่วยเพิ่มความอบอุ่นได้เป็นอย่างดี ซึ่งมีจำหน่ายที่ร้านสะดวกซื้อ

การเดินทาง

รถไฟ JR: เครือข่ายรถไฟ JR Hokkaido เชื่อมต่อเมืองหลักได้อย่างสะดวกสบาย แนะนำควรจองที่นั่งล่วงหน้าในช่วงเทศกาลเนื่องจากมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก
รถเช่า: ให้ความยืดหยุ่นสูง แต่การขับขี่ในฤดูหนาวต้องใช้ความระมัดระวัง รถเช่าทุกคันจะมาพร้อมยางสำหรับขับบนหิมะ หรือหากต้องการโซ่เพื่อสำรองไว้กรณีหิมะหนา สามารถแจ้งผู้ให้บริการได้
ข้อควรระวังในการเดินทางฤดูหนาว: รถไฟอาจล่าช้าหากมีหิมะตกหนัก หากเช่ารถควรเช็คถนนอยู่เสมอกรณีถนนปิดเนื่องจากหิมะหนาเกินไป และควรเผื่อเวลาเดินทางเสมอ

สรุป

เกาะฮอกไกโด ซึ่งเป็นเกาะที่อยู่ทางเหนือสุดของญี่ปุ่น ในฤดูหนาวจะเป็นแดนสวรรค์แห่งหิมะที่น่าตื่นตาตื่นใจ เริ่มต้นในเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ คุณจะได้สัมผัสทิวทัศน์ที่มหัศจรรย์ของเทือกเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว และเที่ยวชมเทศกาลประจำปีที่เต็มไปด้วยประติมากรรมน้ำแข็งที่ส่องประกาย และบ่อน้ำพุร้อนที่ช่วยผ่อนคลาย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคู่รัก และการไปเที่ยวแบบครอบครัว รับรองว่าฮอกไกโดจะมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจ

ไฮไลท์หลักในช่วงฤดูหนาวคือการเข้าร่วมเทศกาลหิมะชื่อดังสามแห่ง การผ่อนคลายในบ่อน้ำพุร้อน และการทำกิจกรรมกลางแจ้งอื่น ๆ การท่องเที่ยวในฤดูหนาวต้องมีการวางแผน โดยเฉพาะเรื่องเสื้อผ้าควรเตรียมเสื้อผ้าแบบหลายชั้น พร้อมรับมือกับสภาพอากาศหนาวเย็น และที่ขาดไม่ได้เลยคือประกันเดินทางที่จะช่วยให้คุณสนุกได้เต็มที่แบบไม่ต้องกังวล

ซื้อประกันเดินทาง คลิก

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

1. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวฮอกไกโดเพื่อสัมผัสหิมะคือเมื่อไหร่?

ฤดูหนาวในฮอกไกโดอยู่ระหว่างเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ ช่วงที่เหมาะที่สุดในการเที่ยวชมเทศกาลต่าง ๆ คือ ต้นถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากเป็นช่วงที่เทศกาลหิมะซัปโปโร เทศกาลแสงไฟริมคลองโอตารุ และเทศกาลฤดูหนาวอาซาฮิคาวะ ที่มักจัดขึ้นในช่วงใกล้เคียงกัน

2. การเดินทางระหว่างเมืองในฮอกไกโดช่วงฤดูหนาวสะดวกหรือไม่?

การเดินทางโดยรถไฟ JR Hokkaido มีความสะดวกและมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ควรเผื่อเวลาให้มากขึ้นสำหรับทุกการเดินทาง เพราะอาจเกิดความล่าช้าเนื่องจากหิมะตกหนักได้ หากขับรถเช่า ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเรื่องถนนที่เป็นน้ำแข็งและสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงกะทันหัน

3. เทศกาลหิมะในโอตารุและซัปโปโรสามารถเที่ยวรวมกันในทริปเดียวได้ไหม?

ทำได้ เนื่องจากเทศกาลเส้นทางแสงหิมะโอตารุมักจัดขึ้นคาบเกี่ยวกับวันสุดท้ายของเทศกาลหิมะซัปโปโร ทำให้ง่ายต่อการวางแผนเข้าร่วมทั้งสองงานในทริปเดียวกัน และโอตารุอยู่ห่างจากซัปโปโรหากเดินทางโดยรถไฟประมาณ 40 นาทีเท่านั้น

4. เทศกาลหิมะซัปโปโรปี 2569 หรือ Sapporo Snow Festival 2026 จัดงานวันไหน?

งานจะมีขึ้นในวันที่ 4–11 กุมภาพันธ์ 2026 สำหรับวันสุดท้าย (11 ก.พ.) ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์ในญี่ปุ่น อย่าลืมวางแผนการเดินทางกันดีๆ นะ

5. เทศกาลฤดูหนาวอาซาฮิคาวะปี 2569 (Asahikawa Winter Festival 2026) จัดงานวันไหน?

งานจะมีขึ้นในวันที่ 6-11 กุมภาพันธ์ 2026

บทความที่น่าสนใจ

เที่ยวโอตารุฤดูหนาว...สัมผัสความโรแมนติกท่ามกลางหิมะ

โอตารุเมืองท่าประวัติศาสตร์สุดโรแมนติกในฮอกไกโด พบกับกิจกรรมในฤดูหนาวที่คุณต้องห้ามพลาด พร้อมออกเดินทางแล้วอย่าลืมให้ประกันเดินทางจากคุ้มภัยโตเกียวมารีนดูแลคุณ

อ่านบทความ