-----------------------------
มะเร็งตับเป็นโรคร้ายแรงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ตับปกติให้กลายเป็นเซลล์มะเร็ง ซึ่งเจริญเติบโตและแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว โดยในระยะเริ่มต้น ผู้ป่วยมักไม่แสดงอาการ หรือมีอาการไม่ชัดเจน เช่น อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ปวดท้องบริเวณชายโครงขวา เมื่อเข้าสู่ระยะรุนแรง อาการจะชัดเจนมากขึ้น ท้องบวม ตัวเหลือง ตาเหลือง คลำได้ก้อนที่ตับ มีไข้ และผอมแห้งลง
ปัจจุบันมีแนวโน้มผู้ป่วยมะเร็งตับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีอัตราการเสียชีวิตสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโรคมะเร็ง การรักษามะเร็งตับขึ้นอยู่กับระยะของโรค วิธีการรักษาหลัก ได้แก่ การผ่าตัด การให้ยาเคมีบำบัด การฉายแสง และการปลูกถ่ายตับ อย่างไรก็ตาม หากตรวจพบในระยะลุกลาม การรักษามักไม่ได้ผล และมีอัตราการรอดชีวิตต่ำ
ขึ้นอยู่กับระยะของโรค ตำแหน่งที่เป็น ขนาดก้อนมะเร็ง สุขภาพโดยรวม และการทำงานของตับ โดยสามารถแบ่งตามระยะของมะเร็งได้ดังนี้
เป็นระยะที่ก้อนมะเร็งมีขนาดเล็กและจำกัดอยู่ที่ตับ วิธีการรักษาหลักคือการผ่าตัดเอาก้อนมะเร็งออก (Hepatectomy) หรือการปลูกถ่ายตับ (Liver transplantation) ซึ่งสามารถรักษาให้หายขาดได้
ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 500,000 - 1,500,000 บาท
เป็นระยะที่มะเร็งลุกลามไปที่เส้นเลือดหรือต่อมน้ำเหลือง แต่ยังไม่แพร่กระจายไปอวัยวะอื่น การรักษาอาจใช้วิธีให้ยาเคมีบำบัด (Chemotherapy) ฉีดสารกัมมันตรังสีเข้าเส้นเลือดแดงของตับ (Transarterial chemoembolization) หรือจี้ก้อนมะเร็งด้วยคลื่นวิทยุ (Radiofrequency ablation) เพื่อชะลอการลุกลามของโรค ยืดระยะเวลาการมีชีวิต และบรรเทาอาการ
ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 200,000 - 500,000 บาท
เป็นระยะที่มะเร็งแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น เช่น ปอด กระดูก สมอง การรักษาจะเป็นแบบประคับประคอง เพื่อบรรเทาอาการและให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด วิธีการรักษา ได้แก่ ให้ยามะเร็งแบบใหม่ (Targeted therapy) เช่น โซราเฟนิบ (Sorafenib) เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ให้ยาแก้ปวด ยาแก้คลื่นไส้อาเจียน ให้สารอาหารทางหลอดเลือด และการดูแลแบบประคับประคองอื่นๆ
ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 100,000 - 300,000 บาท
จะเห็นได้ว่าในการรักษามะเร็งตับมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงมาก ดังนั้นการทำประกันสุขภาพและมะเร็งจะช่วยบรรเทาภาระค่ารักษาพยาบาลได้มาก อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุดอีกด้วย
คือ การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซี ซึ่งก่อให้เกิดการอักเสบเรื้อรังของตับ นำไปสู่ภาวะตับแข็ง และพัฒนาเป็นมะเร็งตับในที่สุด นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ โรคตับคั่งไขมัน และสารพิษอัลฟาท็อกซิน
งานวิจัยล่าสุดพบว่า ความเครียดเรื้อรังก็เป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดมะเร็งตับได้ โดยความเครียดจะกระตุ้นให้เกิดการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ส่งผลให้เซลล์ตับถูกทำลาย และมีการอักเสบ ก่อให้เกิดมะเร็งตับตามมา (https://cancerres.aacrjournals.org/content/80/16/3386)
ผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซี เนื่องจากไวรัสทั้งสองชนิดนี้เป็นสาเหตุหลักของมะเร็งตับ
ผู้ที่เป็นโรคตับแข็ง ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดก็ตาม เช่น จากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ การดื่มแอลกอฮอล์ หรือโรคตับคั่งไขมัน
ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ หรือติดสุรา เพราะแอลกอฮอล์เป็นสารก่อมะเร็ง ทำลายเซลล์ตับ
ผู้ที่เป็นโรคตับคั่งไขมันที่ไม่ได้เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ (Non-alcoholic fatty liver disease)
ผู้ที่ได้รับสารพิษอัลฟาท็อกซินเป็นประจำ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งที่พบได้ในอาหารที่ขึ้นรา เช่น ถั่วลิสง ข้าวโพด
ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งตับ เนื่องจากอาจมีความเกี่ยวข้องกับพันธุกรรม
ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน โรคอ้วน ซึ่งมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคตับคั่งไขมัน
ผู้สูงอายุ เพราะความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งตับจะเพิ่มขึ้นตามอายุที่มากขึ้น
ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี
ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ หรือดื่มแต่พอควร
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่รับประทานอาหารไขมันสูง
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
ตรวจคัดกรองมะเร็งตับเป็นประจำ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง
จัดการความเครียด ผ่อนคลาย และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
มะเร็งตับเป็นโรคร้ายที่สามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลสุขภาพ และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง แต่หลายคนยังคงประมาท โดยคิดว่าตัวเองไม่มีทางเป็น ทว่าไม่มีใครสามารถการันตีได้ว่าตัวเองจะปลอดภัยจากโรคร้ายนี้ ดังนั้นการทำประกันสุขภาพและประกันชีวิต จึงเป็นหนึ่งในวิธีการป้องกันความเสี่ยงทางการเงินหากเกิดเจ็บป่วย
ประกันสุขภาพให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ค่ายา ค่าห้อง และค่าบริการทางการแพทย์ที่จำเป็น หากเกิดเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ ขณะที่ประกันชีวิต นอกจากให้ความคุ้มครองเช่นเดียวกับประกันสุขภาพแล้ว ยังมอบเงินก้อนให้กับผู้รับผลประโยชน์ เมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิต ซึ่งเงินก้อนนี้สามารถเป็นหลักประกันให้กับครอบครัวของผู้เอาประกันได้
เพื่อสุขภาพและความมั่นคงทางการเงินของทุกท่าน อย่าลืมดูแลสุขภาพ ป้องกันโรค และสร้างหลักประกันชีวิตด้วยการทำประกันสุขภาพและประกันชีวิต เพื่อลดความสูญเสีย และได้รับการคุ้มครองถ้วนหน้าอย่างทั่วถึง
ผู้เขียนบทความนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการประกันชีวิตและประกันชีวิตบำนาญ ซึ่งมีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ทั้งด้านประกันชีวิตและประกันสุขภาพสำหรับรายบุคคลและรายกลุ่ม เราได้ให้ทั้งคำปรึกษาและออกแบบแผนประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าหลากหลายกลุ่ม เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ลูกค้าของเราอยู่เสมอ ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญนี้ ทำให้ลูกค้าโตเกียวมารีนประกันชีวิตมั่นใจได้ว่า จะได้รับความคุ้มครองที่ตอบโจทย์กับความคุ้มครองของคุณมากที่สุด ทำให้ผู้อ่านมั่นใจได้ว่าเนื้อหาทุกบทความจะเป็นข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจของท่าน
ดูแผนประกันทั้งหมดของเราChoose your country or region
Visit HQ Pages
Visit Country Pages
Select your location and language
All
All
Asia Pacific
Australia
Americas
Europe
Singapore
Malaysia
Australia
You are currently on a site outside of your country Switch to external site?
Visit your local page. If you change your mind, you can use the dropdown at the top navigation to visit other Tokio Marine country pages.
ขณะนี้คุณอยู่ในเว็บไซต์นอกประเทศของคุณ เปลี่ยนไปใช้เว็บไซต์ประเทศของคุณไหม?
เยี่ยมชมเว็บไซต์ในประเทศของคุณ หากคุณเปลี่ยนใจ คุณสามารถเลือกเมนูด้านล่าง เพื่อไปที่หน้าประเทศอื่นๆ ของโตเกียวมารีน