ภายใต้มาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลบัญชีทางการเงินแบบอัตโนมัติ (Common Reporting Standard: CRS) กรมสรรพากรกำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันชีวิตตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต (ผู้มีหน้าที่รายงาน) มีหน้าที่เก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับถิ่นที่อยู่ทางภาษีหรือข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และรายงานแก่กรมสรรพากรเพื่อปฎิบัติตามความตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับภาษีอากร
บมจ. โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) ในฐานะผู้มีหน้าที่รายงาน จึงมีความจำเป็นที่ต้องเก็บรวบรวมและรายงานข้อมูลถิ่นที่อยู่ทางภาษีของท่าน กรุณากรอกเอกสารรับรองตนเอง (Self-certification form) เพื่อแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับประเทศที่ท่านมีถิ่นที่อยู่ทางภาษีให้กับบริษัท หรือหากข้อมูลเกี่ยวกับถิ่นที่อยู่ทางภาษีของท่าน เช่น ประเทศที่ท่านมีถิ่นที่อยู่ทางภาษี หรือหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี เปลี่ยนแปลงไปจากที่ท่านเคยแจ้งไว้กับบริษัท ท่านมีหน้าที่ต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงนั้นโดยนำส่งแบบฟอร์มการรับรองตนเองที่ปรับปรุงข้อมูลแล้วมายังบริษัทภายใน 30 วันนับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลง
ท่านสามารถกรอกเอกสารรับรองตนเอง (Self-certification form) ได้ที่นี่
มาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลบัญชีทางการเงินแบบอัตโนมัติ
(Common Reporting Standard: CRS)
เนื่องจากประเทศไทยเป็นภาคีสมาชิกของกรอบความร่วมมือเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางภาษี “Global Forum” (Global Forum on Transparency and Exchange of Information for Tax Purposes) ขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organisation for Economic Cooperation and Development : OECD) กรมสรรพากรจึงได้กำหนดให้สถาบันการเงินผู้มีหน้าที่รายงาน รายงานบัญชีทางการเงินของลูกค้าที่เข้าเงื่อนไขให้แก่กรมสรรพากร เพื่อนำไปแลกเปลี่ยนข้อมูลตามการร้องขอและการแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบอัตโนมัติกับต่างประเทศภายในเดือนกันยายนของทุกปี
บริษัท โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ซึ่งเป็นสถาบันการเงินในฐานะ “ผู้มีหน้าที่ต้องรายงาน” จึงมีหน้าที่ต้องเก็บรวบรวม ตรวจสอบ และจัดให้ได้มาซึ่งเอกสารรับรองตนเอง (Self-certification form) เพื่อพิจารณาถิ่นที่อยู่และจุดประสงค์ทางภาษีอากร และรายงานข้อมูลตามที่กรมสรรพากรกำหนด
ลูกค้าต้องกรอกเอกสารรับรองตนเอง
(Self-certification form) เมื่อใด
เมื่อท่านสมัครทำประกันภัย โปรดกรอกเอกสารการรับรองตนเอง (Self-certification form) ซึ่งเอกสารการรับรองตนเองนี้สามารถใช้ได้จนกว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติการณ์ที่อาจส่งผลให้ข้อมูลเดิมไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน เช่น การเปลี่ยนแปลงประเทศที่ท่านมีถิ่นที่อยู่ทางภาษี หรือหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี เป็นต้น ในกรณีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติการณ์ ท่านต้องส่งเอกสารการรับรองตนเองฉบับใหม่ที่ถูกต้องมายังบริษัทภายใน 30 วันนับตั้งแต่เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติการณ์ดังกล่าว