-----------------------------
เมื่อพูดถึงประกันชีวิต หลายคนอาจคิดถึงเรื่องการคุ้มครองความเสี่ยงยามเสียชีวิต แต่ประกันชีวิตยังมีบทบาทสำคัญในการส่งต่อความมั่นคงทางการเงินแก่บุคคลอันเป็นที่รักผ่านเงินก้อนจากกรมธรรม์ โดย "ผู้รับผลประโยชน์" เป็นบุคคลสำคัญที่จะได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนเมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิต
สำหรับคนที่มีข้อสงสัยว่า ผู้รับผลประโยชน์จากประกันชีวิต สามารถเป็นใครได้บ้าง ? มีวิธีการระบุอย่างไร ? รวมถึงต้องทำอย่างไร ? เมื่อผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตลง ตามมาอ่านได้ในบทความนี้
ผู้รับผลประโยชน์ คือบุคคลที่จะได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัยเมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิต ตามที่ผู้เอาประกันได้ระบุชื่อไว้ ในกรณีเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นกับผู้เอาประกันภัย
ผู้รับผลประโยชน์ต้องเป็นบุคคลหรือนิติบุคคลตามกฎหมาย มีตัวตนจริง และพิสูจน์ได้ ขึ้นอยู่กับผู้ทำประกันเลือกตามความสบายใจ หรือเลือกบุคคลที่ใกล้ชิด มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด หรือทางกฎหมาย ให้เป็นทายาทโดยธรรม โดยมี 6 ลำดับ ได้แก่
สามี-ภรรยาตามกฎหมาย ลูกตามกฎหมาย ลูกนอกกฎหมายที่บิดารับรองแล้ว หรือลูกบุญธรรม
พ่อแม่
พี่น้องร่วมพ่อแม่เดียวกัน
พี่น้องต่างพ่อหรือต่างแม่
ปู่ ย่า ตา ยาย
ลุง ป้า น้า อา
ความสัมพันธ์ : ระหว่างผู้เอาประกันกับบุคคลที่ต้องการมอบความคุ้มครอง อาจเป็นคู่สมรส บุตร พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อนสนิท หรือองค์กรการกุศล
ภาระผูกพันทางการเงิน : บุคคลที่ต้องการมอบความคุ้มครอง เช่น หนี้สิน ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตร
ความยินยอมของผู้รับผลประโยชน์ : แจ้งให้ผู้รับผลประโยชน์ทราบถึงการระบุชื่อเป็นผู้รับผลประโยชน์ และได้รับความยินยอมจากบุคคลนั้น
การระบุผู้รับผลประโยชน์ในกรมธรรม์ประกันชีวิตเป็นสิ่งสำคัญ ผู้ทำประกันชีวิตควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้เงินค่าสินไหมทดแทนได้ตกถึงมือบุคคลที่ต้องการ โดยมีขั้นตอนดำเนินการดังนี้
ระบุผู้รับประโยชน์ 1 คน = ผู้รับประโยชน์จะได้รับผลประโยชน์เต็มสัดส่วน
ระบุชื่อ-นามสกุล
ระบุความสัมพันธ์กับผู้เอาประกัน
ระบุผู้รับผลประโยชน์มากกว่า 1 คน ต้องมีการจัดสัดส่วนเงินค่าสินไหมทดแทน
ระบุผู้รับประโยชน์มากกว่า 1 คน และมีการแบ่งสัดส่วน : ผู้รับประโยชน์จะได้รับผลประโยชน์ตามสัดส่วนที่กำหนด
ระบุผู้รับประโยชน์มากกว่า 1 คน แต่ไม่ได้แบ่งสัดส่วน : ผู้รับประโยชน์จะได้รับผลประโยชน์ในจำนวนที่เท่ากัน
ไม่ได้ระบุผู้รับประโยชน์ไว้ในกรมธรรม์
ผลประโยชน์จะตกเป็นของทายาทโดยธรรมตามลำดับขั้นที่กฎหมายกำหนดไว้
ตัวอย่าง
นาย A เสียชีวิตโดยไม่มีพินัยกรรม นาง B คู่สมรสที่จดทะเบียนสมรสกับนาย A จะเป็นผู้รับผลประโยชน์ตามกฎหมาย
นาง C เสียชีวิตโดยไม่มีพินัยกรรม มีบุตร 2 คน คือ ด.ช. D และ ด.ญ. E ซึ่งจะเป็นผู้รับผลประโยชน์ตามกฎหมาย คนละ 1 ส่วน
สามารถทำได้ โดยผู้เอาประกันสามารถเปลี่ยนแปลงผู้รับผลประโยชน์ได้ โดยต้องแจ้งความประสงค์ต่อบริษัทประกันภัย พร้อมแนบเอกสารสำคัญต่าง ๆ ประกอบ
หรือสามารถเปลี่ยนแปลงผู้รับผลประโยชน์ผ่านทาง TMLTH Touch Point ได้ในเมนู “เปลี่ยนแปลงผู้รับผลประโยชน์” ได้เช่นกัน สะดวกกว่าและไม่ต้องเตรียมเอกสารใดๆให้วุ่นวาย
เมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิตลง บุคคลที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินการเกี่ยวกับผู้รับประโยชน์ประกันชีวิตได้ดังนี้
ตรวจสอบจากกรมธรรม์ประกันชีวิต : กรณีมีการเปลี่ยนแปลงผู้รับผลประโยชน์ จะมีเอกสารแจ้งการเปลี่ยนแปลงแนบอยู่กับกรมธรรม์
แจ้งให้บริษัทประกันภัยทราบ : ดำเนินการภายใน 14 วัน หรือเร็วที่สุด
เตรียมเอกสารผู้รับผลประโยชน์ ให้แก่บริษัทประกันชีวิต
เล่มกรมธรรม์ประกันชีวิต
แบบฟอร์มเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนของบริษัทประกันภัยที่ทำไว้
สำเนาใบมรณบัตร รับรองสำเนาถูกต้องโดยผู้รับประโยชน์
สำเนาทะเบียนบ้านของผู้เอาประกันที่มีการจำหน่าย "ตาย" เรียบร้อยแล้ว รับรองสำเนาถูกต้องโดยผู้รับประโยชน์
สำเนาบัตรประชาชนทั้งของผู้เสียชีวิตและของผู้รับผลประโยชน์
รายงานทางการแพทย์ ใบชันสูตรพลิกศพที่แจ้งสาเหตุการเสียชีวิต
สำเนาบันทึกประจำวัน / สำเนารายงานการชันสูตรพลิกศพ ซึ่งรับรองสำเนาถูกต้องโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือแพทย์ชันสูตร กรณีเสียชีวิตโดยเหตุผิดธรรมชาติ เช่น อุบัติเหตุ ถูกฆาตกรรม ฆ่าตัวตาย ถูกสัตว์ทำให้ตาย ตายโดยไม่ทราบสาเหตุ
เอกสารอื่น ๆ ตามที่บริษัทประกันภัยร้องขอตามเงื่อนไขของแต่ละที่
การทำประกันแล้วระบุผู้รับผลประโยชน์ เปรียบเสมือนการทำพินัยกรรมฉบับหนึ่งที่ผลประโยชน์ตกไปยังผู้รับผลประโยชน์โดยตรง และการได้รับสินไหมทดแทนจากกรมธรรม์ ซึ่งจะถูกส่งต่อไปยังผู้รับประโยชน์ ไม่ได้ตกทอดไปสู่ทายาท ไม่ว่าจะเป็นทายาทโดยธรรม เช่น คู่สมรสตามกฎหมาย, บุตร ฯลฯ หรือทายาทผู้รับพินัยกรรมตามพินัยกรรมโดยไม่ถือเป็นมรดก
ดังนั้นเงินสินไหมประกันชีวิตที่ส่งต่อให้ผู้รับผลประโยชน์จึงไม่ใช่มรดก ผู้รับประโยชน์ไม่ต้องเสียภาษีการรับมรดก
มาเลือกทำประกันชีวิตที่ใช่ คุ้มครองได้หลากหลายทุกความต้องการที่โตเกียวมารีนประกันชีวิต เรามีประกันให้เลือกหลากหลายแผน ไม่ว่าจะต้องการแบ่งเบาภาระให้คนข้างหลัง หรือสร้างความมั่นคงให้ชีวิต เราก็พร้อมดูแลให้คุณไปถึงเป้าหมาย เลือกแผนประกันชีวิตที่ใช่ เพื่อลดความเสี่ยงด้านการเงิน หมดห่วงทั้งอนาคตและคนข้างหลัง พร้อมเปรียบเทียบความคุ้มครองในแบบที่คุณต้องการได้เลย
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้ารายบุคคล โทรศัพท์ 02-650-1400 วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-20.00 น.
ข้อมูลอ้างอิง
เงินประกันชีวิตไม่ใช่มรดก. สืบค้นเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2567 จาก https://www.set.or.th/th/about/setsource/insights/article/428-life-insurance
ผู้เขียนบทความนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการประกันชีวิตและประกันชีวิตบำนาญ ซึ่งมีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ทั้งด้านประกันชีวิตและประกันสุขภาพสำหรับรายบุคคลและรายกลุ่ม เราได้ให้ทั้งคำปรึกษาและออกแบบแผนประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าหลากหลายกลุ่ม เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ลูกค้าของเราอยู่เสมอ ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญนี้ ทำให้ลูกค้าโตเกียวมารีนประกันชีวิตมั่นใจได้ว่า จะได้รับความคุ้มครองที่ตอบโจทย์กับความคุ้มครองของคุณมากที่สุด ทำให้ผู้อ่านมั่นใจได้ว่าเนื้อหาทุกบทความจะเป็นข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจของท่าน
ดูแผนประกันทั้งหมดของเราChoose your country or region
Visit HQ Pages
Visit Country Pages
Select your location and language
All
All
Asia Pacific
Australia
Americas
Europe
Singapore
Malaysia
Australia
You are currently on a site outside of your country Switch to external site?
Visit your local page. If you change your mind, you can use the dropdown at the top navigation to visit other Tokio Marine country pages.
ขณะนี้คุณอยู่ในเว็บไซต์นอกประเทศของคุณ เปลี่ยนไปใช้เว็บไซต์ประเทศของคุณไหม?
เยี่ยมชมเว็บไซต์ในประเทศของคุณ หากคุณเปลี่ยนใจ คุณสามารถเลือกเมนูด้านล่าง เพื่อไปที่หน้าประเทศอื่นๆ ของโตเกียวมารีน