มะเร็งปอด
สำหรับตำแหน่งแชมป์มะเร็งที่พบมากในผู้ชายที่เชื่อว่าคงไม่มีสุภาพบุรุษคนไหนอยากได้ก็คือ “มะเร็งปอด” และไม่ใช่เพียงแค่เหล่าสิงห์อมควันเท่านั้นที่มีโอกาสเสี่ยง เพราะตามสถิติแล้ว ผู้ป่วยมะเร็งปอดที่มีประวัติสูบบุหรี่กับไม่เคยสูบบุหรี่แทบจะมีอัตราส่วนที่ใกล้เคียงกันเลยทีเดียว
โดยจุดเริ่มต้นเกิดจากการเจริญเติบโตและแบ่งตัวที่ผิดปกติของเซลล์ต่อมปอดจนกลายเป็นก้อนมะเร็ง ก่อนที่จะกระจายไปสู่อวัยวะส่วนอื่น ๆ ของร่างกายในเวลาไม่นาน ส่วนสาเหตุของมะเร็งปอดยังไม่ทราบแน่ชัด แต่จากการศึกษาพบว่ามีปัจจัยที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรค ดังต่อไปนี้
การสูบบุหรี่ โดยผู้ที่สูบบุหรี่จัดมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอดมากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ถึง 10 เท่า
การสูดควันบุหรี่มือสองก็เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอดเช่นกัน
มลพิษทางอากาศ เช่น ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอดได้
ผู้ที่มีคนในครอบครัวเป็นมะเร็งต่อมปอด มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมากกว่าคนทั่วไป
โรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคถุงลมโป่งพอง โรคมะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก
เช่นเดียวกับมะเร็งที่พบบ่อยในผู้ชายชนิดอื่น ๆ ที่จะไม่แสดงอาการในระยะแรก แต่อาการจะเริ่มแสดงชัดเมื่อเข้าสู่ระยะลุกลามแล้ว ดังต่อไปนี้
ไอเรื้อรัง
หายใจลำบาก
เจ็บหน้าอก
ไอมีเลือดปน
เหนื่อยง่าย
แน่นอนว่ามะเร็งปอดเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะพยายามดูแลสุขภาพดีเท่าไร อย่างไรก็ตาม การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์บางอย่างก็สามารถช่วยลดความเสี่ยงได้ ดังต่อไปนี้
ไม่สูบบุหรี่
หลีกเลี่ยงการสูดควันบุหรี่มือสอง
ใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ควบคุมน้ำหนัก
ตรวจสุขภาพเป็นประจำ
มะเร็งต่อมลูกหมาก
มะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นมะเร็งที่พบมากในผู้ชายไทยเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งปอด อ้างอิงจากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข โดยเกิดจากการเจริญเติบโตและแบ่งตัวที่ผิดปกติของเซลล์ต่อมลูกหมากจนกลายเป็นก้อนมะเร็ง ก่อนที่จะแพร่กระจายผ่านกระแสเลือด หรือต่อมน้ำเหลืองไปยังอวัยวะส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย
ถึงแม้จะเป็นมะเร็งที่พบบ่อยในผู้ชาย แต่สาเหตุของมะเร็งต่อมลูกหมากยังไม่ทราบแน่ชัด แต่จากการศึกษาพบว่า มีปัจจัยที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรค ดังต่อไปนี้
อายุที่เพิ่มขึ้น โดยมะเร็งต่อมลูกหมากมักพบในผู้ชายที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป
พันธุกรรม หากมีประวัติครอบครัวเคยป่วยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ความเสี่ยงก็ย่อมเพิ่มขึ้น
พฤติกรรมการกินอาหาร การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรค
ภาวะอ้วน
โรคเบาหวาน
ความน่ากลัวของมะเร็งที่พบบ่อยในผู้ชายประเภทนี้คือ มักไม่แสดงอาการในระยะแรก หากมีอาการก็มักเป็นอาการที่คล้ายกับอาการต่อมลูกหมากโต หรือต่อมลูกหมากอักเสบ เช่น
ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะเวลากลางคืน
ปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะขัด
ปัสสาวะมีเลือดปน
ปวด หรือเสียดบริเวณท้องน้อย
ปวดหลัง หรือปวดกระดูก
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตก็สามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากได้ ดังต่อไปนี้
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ควบคุมน้ำหนัก
ไม่สูบบุหรี่
ดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่พอเหมาะ
มะเร็งลำไส้ใหญ่
อีกหนึ่งมะเร็งที่พบมากในผู้ชายและมีความอันตรายสูง เนื่องจากสามารถแพร่กระจายสู่อวัยวะอื่นได้อย่างรวดเร็วก็คือ “มะเร็งลำไส้ใหญ่” ที่ในปัจจุบันครองอันดับ 3 ของมะเร็งที่พบบ่อยในผู้ชาย โดยจุดเริ่มต้นเกิดจากการเจริญเติบโตและแบ่งตัวที่ผิดปกติของเซลล์ในลำไส้ใหญ่ พัฒนาความเลวร้ายจนกลายเป็นก้อนมะเร็ง ก่อนที่จะแพร่กระจายสู่อวัยวะอื่น ๆ
สาเหตุของการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ยังค่อนข้างคลุมเครือ อย่างไรก็ตาม มีรายงานทางการแพทย์หลายฉบับสันนิษฐานว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร รวมถึงสาเหตุอื่น ๆ ที่อาจเป็นไปได้ ดังต่อไปนี้
พันธุกรรม หากมีประวัติครอบครัวเคยป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ โอกาสเสี่ยงก็ย่อมเพิ่มขึ้น
โรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง
พฤติกรรมการกินอาหาร การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง อาหารแปรรูป และอาหารที่มีเนื้อสัตว์แดงมาก อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรค
มะเร็งลำไส้ใหญ่มักไม่แสดงอาการในระยะแรก อย่างไรก็ตาม หากมีอาการก็มักเป็นอาการที่คล้ายกับอาการของโรคระบบทางเดินอาหาร เช่น
อุจจาระมีเลือดปน
ท้องผูก ท้องเสียสลับกัน
เบื่ออาหาร
น้ำหนักลด
ปวดท้อง
ถ่ายอุจจาระลำเล็กลง
สำหรับแนวทางการดูแลตัวเองเพื่อให้ห่างไกลจากมะเร็งที่พบมากในผู้ชายโรคนี้มากที่สุดก็คือ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง อาหารแปรรูป และอาหารที่มีเนื้อสัตว์แดงมาก รวมถึงการหมั่นตรวจคัดกรองอย่างเป็นประจำ
มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
หลายคนอาจไม่คุ้นหูกับคำว่า “มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ” เท่าไรนัก อย่างไรก็ตาม นี่คืออีกหนึ่งมะเร็งที่พบบ่อยในผู้ชาย ดังนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่คุณสุภาพบุรุษจะได้ทำความรู้จักไว้คร่าว ๆ เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ห่างไกลโรคร้ายนี้
มะเร็งกระเพาะปัสสาวะเกิดจากเซลล์ในกระเพาะปัสสาวะมีการเจริญเติบโตและแบ่งตัวโดยไม่หยุดยั้งจนกลายเป็นก้อนเนื้องอก ก่อนที่ก้อนเนื้องอกนี้จะลุกลามไปยังอวัยวะข้างเคียง รวมถึงต่อมน้ำเหลือง สุดท้ายก็แพร่กระจายไปได้ทั่วร่างกาย โดยปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มีดังต่อไปนี้
ประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
สัมผัสกับสารเคมีบางชนิด เช่น อะโครเลนไทรล์ (Acrolein) เบนซีน (Benzene) และไนโตรซามีน (Nitrosamines)
การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะเรื้อรัง
โรคนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
ในระยะเริ่มต้น มะเร็งกระเพาะปัสสาวะอาจไม่แสดงอาการใด ๆ หรือมีอาการเพียงเล็กน้อย เช่น ปัสสาวะมีเลือดปน ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะขัด อย่างไรก็ตาม หากมะเร็งลุกลามมากขึ้นอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดหลัง ปวดท้อง น้ำหนักลด อ่อนเพลีย เป็นต้น
สำหรับการดูแลตัวเองเพื่อให้ห่างไกลมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มีงานวิจัยทางการแพทย์หลายฉบับบอกว่าการดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอช่วยลดความเสี่ยงได้ รวมถึงการรักษาโรคนิ่วในกระเพาะปัสสาวะให้หายขาด และหมั่นตรวจคัดกรองอย่างเป็นประจำ