ทำไมต้องตรวจสุขภาพประจำปี สำคัญอย่างไร?

การตรวจสุขภาพร่างกายเป็นประจำทุกปี เป็นสิ่งที่หลายคนมองข้าม จากข้อมูลอ้างอิงของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพที่เผยสถิติออกมาว่า ตามอัตราส่วนมีคนไทยเพียง 2% เท่านั้นที่ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี แถมยังมีคนไทยอีกร้อยละ 60 ที่คิดว่าตัวเองแข็งแรง จึงไม่แปลกที่หลาย ๆ คนจะตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับสิ่งนี้ หากคุณเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ลองมาค้นหาคำตอบของความสำคัญว่าทำไมต้องตรวจสุขภาพประจำปีได้ที่นี่!

“การตรวจสุขภาพประจำปี” หนทางป้องกันสารพัดโรค

หากเปรียบร่างกายของคนเราให้เหมือนกับรถยนต์ การตรวจสุขภาพประจำปีก็เหมือนกับการเช็กสภาพรถให้พร้อม และสมบูรณ์อยู่เสมอ ซึ่งหากตรวจพบว่ามีระบบใดที่ทำงานผิดปกติ ก็จะได้รักษา รวมถึงป้องกันโรคให้ทันเวลานั่นเอง

รายการตรวจสุขภาพประจำปี ตรวจอะไรบ้าง

ในส่วนของรายการตรวจสุขภาพประจำปี หลายคนอาจสงสัยว่าต้องตรวจอะไรบ้าง ครอบคลุมไปถึงการตรวจในส่วนไหน โดยเบื้องต้นจะเริ่มจากการสอบประวัติสุขภาพส่วนบุคคล เช่น ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต ประวัติการใช้ยา ประวัติการผ่าตัด รวมไปถึงประวัติครอบครัว หลังจากนั้น จึงจะทำการตรวจสอบสภาพร่างกายเบื้องต้น ได้แก่ การวัดความสูง น้ำหนัก รอบเอว รอบสะโพก และความดันโลหิต ก่อนจะไปเริ่มตรวจสุขภาพในรายการอื่น ๆ เช่น

• ตรวจการทำงานต่าง ๆ ของระบบร่างกาย เช่น ระบบทางเดินอาหาร ระบบทางเดินปัสสาวะ

• ตรวจหาโรค เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคอื่น ๆ

• ตรวจหาความเสี่ยงที่อาจจะนำไปสู่โรคร้าย เช่น ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ระดับน้ำตาลในเลือด ระดับไขมันคอเลสเตอรอลในเลือด ระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ การทำงานของไต การทำงานของตับ เป็นต้น

ทำไมต้องตรวจสุขภาพประจำปี?

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในปัจจุบันมนุษย์เราต้องพบเจอกับความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้มากขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะสาเหตุที่มาจากปัจจัยภายนอก อาทิ มลภาวะ ฝุ่น PM 2.5 โรคอุบัติใหม่อย่าง โควิด-19 ไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ ๆ รวมไปถึงอาหารการกินที่อาจจะไม่ปลอดภัยจากสารเคมี 

นอกจากนี้ ยังมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปตามสังคมและยุคสมัย ทำให้คนสมัยใหม่เสี่ยงต่อการเกิดโรคได้ง่ายขึ้น ทั้งความเครียด เวลาที่น้อยเกินกว่าจะออกกำลังกาย การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ พฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ที่มากขึ้น ทั้งหมดนี้ ล้วนแต่เป็นสาเหตุที่จะนำไปสู่การเกิดโรคร้าย

5 เหตุผลที่ควรตรวจสุขภาพประจำปี

• เจอโรคและปัญหาสุขภาพได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น เตรียมพร้อมการรักษาได้อย่างเหมาะสม

• ได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพและป้องกันโรคที่เหมาะต่อสภาพร่างกายและสิ่งแวดล้อม

• เฝ้าระวังภาวะเสี่ยงของโรคร้ายต่าง ๆ ได้อย่างทันท่วงที

• ช่วยตรวจสอบและเฝ้าติดตามสภาวะจิตใจที่อาจกระทบต่อสุขภาพร่างกาย

• ส่งเสริมการดูแลสุขภาพได้ในระยะยาว

ดังนั้น หากใครที่กำลังสงสัยว่าทำไมต้องตรวจสุขภาพประจำปี ในเมื่อภาวะร่างกายปัจจุบันก็ดูเหมือนจะปกติดี แต่อย่าลืมว่าเราไม่มีทางที่จะรู้ได้เลยว่าร่างกายของเรากำลังเผชิญหน้ากับความเสี่ยงที่จะเกิดโรคมากแค่ไหน การตรวจสุขภาพเพื่อรู้เท่าทัน พร้อมรับคำแนะนำในการป้องกันและรักษาให้ทันเวลาจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรละเลย

ความแตกต่างของการตรวจสุขภาพประจำปีในช่วงวัย 40 ปีขึ้นไป

1. การตรวจสุขภาพทั่วไป

การตรวจสุขภาพประจำปีของทุกเพศตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไป ควรเพิ่มการอัลตราซาวด์ช่องท้อง เพื่อตรวจดูความปกติของตับ ไต ถุงน้ำดี รังไข่ และมดลูก และเมื่อมีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป การทำงานของหัวใจขณะออกกำลังกายหรือ EST (Exercise Stress Test) ถือเป็นรายการตรวจสุขภาพที่ควรเพิ่มเข้าไป เพื่อเฝ้าระวังโรคร้ายเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดที่อาจจะเกิดขึ้นได้

2. การตรวจสุขภาพสตรี

สำหรับการตรวจสุขภาพประจำปีของสตรี ต้องตรวจอะไรบ้าง? ในกรณีที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป หรือเคยมีเพศสัมพันธ์ “มะเร็งปากมดลูก” และ “เชื้อ HPV” คือรายการที่ควรยืนพื้นในการตรวจ และเมื่ออายุถึง 40 ปีขึ้นไป ก็ควรจะเข้ารับการตรวจมะเร็งเต้านมอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

3. การตรวจสุขภาพสุภาพบุรุษ

การตรวจสุขภาพบุรุษ สามารถตรวจตามรายการปกติพื้นฐาน แต่เมื่อมีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป สิ่งที่ต้องเพิ่มเข้ามา คือการตรวจหามะเร็งต่อมลูกหมากอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

4. การตรวจร่างกายสำหรับผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป)

วัยสูงอายุ ถือเป็นอีกช่วงวัยที่ควรให้ความสำคัญต่อการตรวจสุขภาพประจำปี เนื่องจากเป็นวัยที่ระบบและอวัยวะต่าง ๆ เริ่มเข้าสู่การเสื่อมสภาพและถดถอยอย่างสมบูรณ์แบบ โดยรายการตรวจสุขภาพของวัย 60 ปีขึ้นไป ต้องตรวจอะไรบ้าง สามารถอ้างอิงได้ตามรายการด้านล่างนี้

• การตรวจดวงตา บุคคลอายุ 60-64 ปี ควรได้รับการตรวจทุก 2-4 ปี แต่สำหรับบุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป ควรได้รับการตรวจทุก 1-2 ปี

• ตรวจอุจจาระ ตั้งแต่อายุ 60 ปีขึ้นไป ควรได้รับการตรวจอุจจาระ เพื่อคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง ปีละ 1 ครั้ง

• การประเมินภาวะสุขภาพ โดยจะประเมินจากภาวะโภชนาการ ความเสี่ยงภาวะกระดูกพรุน การทำกิจวัตรประจำวันพื้นฐาน หากอายุ 65 ปีขึ้นไป ควรได้รับการประเมินสมรรถภาพการทำงานของสมองเพิ่มเติม

• ตรวจระดับไขมันในเลือด ควรตรวจทุก 5 ปี

• ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด และตรวจปัสสาวะ ควรตรวจทุกปี

• ตรวจระดับครีอะตินีน (Creatinine) ในเลือด เพื่อดูการทำงานของไต โดยควรตรวจทุกปี

• ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ในกรณีที่มีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป ควรได้รับการตรวจทุกปี

• ตรวจเต้านม ผู้หญิงวัย 60-69 ปี ควรได้รับการตรวจเต้านมทุกปี และสำหรับหญิงสูงวัยอายุ 70 ปีขึ้นไป ควรตรวจตามความเหมาะสม

• ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก เพศหญิงอายุ 60-64 ปี ควรได้รับการตรวจ ทุก ๆ 3 ปี ส่วนหญิงสูงวัยอายุ 65 ปีขึ้นไป ควรตรวจตามความเหมาะสม

หลังจากได้เห็นความสำคัญว่าทำไมต้องตรวจสุขภาพประจำปีกันไปแล้ว สำหรับใครที่อยากเพิ่มความอุ่นใจด้านสุขภาพให้มากยิ่งขึ้น เราขอแนะนำหลากหลายแผนประกันสุขภาพที่ให้คุณตรวจสุขภาพฟรีโดยใช้วงเงินOPD จากโตเกียวมารีน พร้อมให้คุณเลือกกรมธรรม์ที่ใช่ ดูแลกันไปในระยะยาว สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้ารายบุคคล โทรศัพท์ 02-650-1400 วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-20.00 น.

ข้อมูลอ้างอิง 

1. อึ้ง! คนไทยตรวจสุขภาพแค่ปีละ 2% แถมตรวจมากเกินจำเป็นอีกเพียบ!. สืบค้นเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 จาก https://pr.moph.go.th/?url=pr/detail/2/07/107400/

2. ทำไมเราต้องตรวจสุขภาพประจำปี. สืบค้นเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 จาก https://www.petcharavejhospital.com/th/Article/article_detail/why-health-checkup-2020

3. ทำไมต้องตรวจสุขภาพประจำปี. สืบค้นเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 จาก https://www.samitivejhospitals.com/th/article/detail/%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%9B%E0%B8%B5