6 ประโยชน์ของฟิล์มติดรถยนต์
และวิธีเลือกที่คุณต้องรู้!

รู้หรือไม่ว่าฟิล์มติดรถยนต์ไม่ได้มีประโยชน์เพียงแค่ปกป้องรถคุณจากความร้อนเท่านั้น ยังช่วยให้สบายตาขณะขับขี่ นอกจากนี้แล้วฟิล์มติดรถยนต์ยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกด้วยนะ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ 6 ประโยชน์ของฟิล์มติดรถยนต์ พร้อมกับเคล็ดลับในการเลือกฟิล์มที่เหมาะสมกับรถของคุณ รวมถึงข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับการติดฟิล์มให้ถูกกฎหมาย ใครที่กำลังมองหาฟิล์มติดรถยนต์อยู่พลาดไม่ได้เลย

6 ประโยชน์ของฟิล์มติดรถยนต์

1. ลดความร้อนภายในรถยนต์

หนึ่งในประโยชน์หลักของฟิล์มติดรถยนต์คือการลดความร้อนภายในรถยนต์ ฟิล์มกรองแสงสามารถสะท้อนรังสีอินฟราเรดที่เป็นต้นเหตุของความร้อน ช่วยลดอุณหภูมิภายในรถ ทำให้ห้องโดยสารเย็นสบายยิ่งขึ้น ฟิล์มคุณภาพสูงสามารถลดความร้อนจากแสงแดดได้ถึง 40-60% ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในสภาพอากาศร้อนอย่างประเทศไทย

2. ลดการใช้พลังงาน

คุณอาจจะคิดไม่ถึงว่าการที่ภายในรถของคุณมีอุณหภูมิที่สูง รถก็จะใช้พลังงานจากน้ำมัน แก๊ส หรือไฟฟ้ามากขึ้น เนื่องจากเครื่องปรับอากาศภายในรถของคุณต้องทำงานหนักมากขึ้นนั่นเอง ซึ่งนั่นก็ทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้นด้วย การมีฟิล์มติดรถยนต์ที่ช่วยกันความร้อนได้ดี ก็จะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานเบาลง ประหยัดพลังงานมากขึ้น ใครที่ต้องขับรถระหว่างวันบ่อยๆ ก็ควรมีฟิล์มที่กันความร้อนได้ดีติดรถไว้

3. ป้องกันรังสี UV

ฟิล์มติดรถยนต์คุณภาพสูงสามารถป้องกันรังสี UV ได้ถึง 99% ซึ่งมีผลในการปกป้องผิวหนังของคุณจากอันตรายที่เกิดจากรังสี UV เช่น มะเร็งผิวหนัง ริ้วรอยก่อนวัย และจุดด่างดำ ฟิล์มกรองแสงยังช่วยปกป้องอุปกรณ์ภายในรถยนต์ไม่ให้ซีดจางและทำให้เบาะหนังและอุปกรณ์ภายในรถยนต์ดูใหม่อยู่เสมออีกด้วย

4. ลดแสงจ้าและสะท้อนแสง

แดดเมืองไทยร้อนแรงขึ้นทุกวัน ฟิล์มกรองแสงจะช่วยลดความจ้าจากแสงแดดหรือแสงไฟจากรถยนต์ นอกจากนี้ยังช่วยลดแสงสะท้อนจากพื้นผิวต่างๆ เช่น ถนน รถยนต์ ทำให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นและขับขี่ได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น การลดแสงจ้านี้ยังช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตา ทำให้การขับขี่ในระยะยาวสะดวกสบายยิ่งขึ้น

5. เพิ่มความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย

ฟิล์มติดรถยนต์ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถ ด้วยการลดความโปร่งใสของกระจก ทำให้ผู้ที่อยู่นอกรถไม่สามารถมองเห็นภายในได้ชัดเจน ช่วยป้องกันการถูกสอดส่องหรือขโมยทรัพย์สินในรถยนต์ นอกจากนี้ฟิล์มติดรถยนต์ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยหากเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากฟิล์มสามารถยึดกระจกให้อยู่ในที่เดิมและลดการแตกกระจายของกระจกเมื่อเกิดการชน ทำให้ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บจากเศษกระจก แต่ในส่วนของความปลอดภัยนั้น มีแค่ฟิล์มติดรถยนต์ยังไม่พอ มีประกันรถยนต์ติดรถไว้อุ่นใจกว่า วันนี้คุ้มภัยโตเกียวมารีนมีประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้ความคุ้มครองครบ หรือประกันรถยนต์ 2+ ที่ให้ความคุ้มค่า

6. เพิ่มความสวยงามให้กับรถยนต์

รถยนต์คันสวยจะเท่กว่าเดิมหากคุณติดฟิล์มสีเข้ม เพื่อตัดกับสีของรถยนต์ โดยสามารถเลือกระดับความเข้มตามสไตล์และความต้องการของเจ้าของรถ ฟิล์มกรองแสงที่ดีไม่เพียงแต่ป้องกันความร้อนและรังสี UV แต่ยังเสริมลุคให้รถยนต์ของคุณดูมีระดับมากขึ้น

เลือกฟิล์มแบบไหนให้ถูกกฎหมาย?

หลายคนอาจมีคำถามว่าติดฟิล์มเกิน 80% รอบคัน ผิดกฎหมายไหม ขณะนี้ประเทศไทยได้ยกเลิกกฎหมายที่เกี่ยวกับความเข้มของฟิล์มบนกระจกรถยนต์แล้ว ซึ่งหมายความว่าเราสามารถเลือกติดฟิล์มที่มีความเข้มเท่าไรก็ได้รอบคัน แต่กฎหมายที่ยังมีอยู่นั้นจะระบุถึงการติดตั้งฟิล์มที่มีแสงสะท้อน หรือฟิล์มปรอท ซึ่งอาจสร้างความลำบากหรือบดบังทัศนวิสัยของเพื่อนร่วมทาง แต่ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ด้วย

ฟิล์มติดรถยนต์มีอายุกี่ปี?

อย่าลืมว่าฟิล์มติดรถยนต์ก็มีอายุการใช้งาน โดยเฉพาะรถที่จอดตากแดดทุกวัน อายุของฟิล์มติดรถยนต์ก็จะสั้นกว่ารถที่จอดในร่ม หากคุณจอดรถยนต์ตากแดดเป็นประจำ อายุของฟิล์มติดรถยนต์จะอยู่ที่ 2-3 ปีเท่านั้น แต่ถ้าจอดในที่ร่ม ก็จะอยู่ได้ประมาณ 5-10 ปี ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของฟิล์มกรองแสงที่คุณติดด้วยนะ

จะรู้ได้อย่างไรว่าฟิล์มติดรถยนต์ของคุณหมดอายุเสียแล้ว

เนื่องจากอายุของฟิล์มติดรถยนต์ขึ้นอยู่กับการใช้งาน ดังนั้นการที่จะรู้ว่าถึงเวลาเปลี่ยนฟิล์มติดรถยนต์ก็สังเกตได้ง่าย ๆ ดังนี้

1.มีสีที่เปลี่ยนไปจากตอนแรก

หากคุณสังเกตได้ว่าฟิล์มที่ติดอยู่มีสีจางลง รู้สึกได้ถึงแสงที่จ้า หรือสะท้อนมากขึ้น นั่นอาจจะแปลว่าฟิล์มติดรถยนต์ของคุณเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว

2.อุณหภูมิภายในรถร้อนขึ้น

หากรู้สึกว่าอุณหภูมิภายในรถร้อนขึ้นกว่าปกติ ถึงเปิดเครื่องปรับอากาศเท่าเดิม แต่ก็ยังร้อน โดยเฉพาะช่วงเวลากลางวัน นั่นอาจจะแปลว่าถึงเวลาเปลี่ยนฟิล์มกรองแสงรถยนต์แล้ว

3.ฟิล์มกรองแสงมีสภาพไม่ปกติ

ลองสำรวจฟิล์มกรองแสงว่ามีสภาพปกติอยู่หรือไม่ เช่น มีการพอง รอยยับย่น หรือฟองอากาศหรือเปล่า ถ้ามีก็ได้เวลาเลือกฟิล์มใหม่แล้วล่ะ

ประเภทของฟิล์มติดรถยนต์ที่แนะนำ

ฟิล์มติดรถยนต์มีหลายประเภทให้เลือกตามความต้องการและงบประมาณของเจ้าของรถยนต์ แต่ละประเภทมีคุณสมบัติและประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อนและรังสี UV ที่แตกต่างกันไป อย่างฟิล์มสี ราคาจะย่อมเยากว่าประเภทอื่น แต่กันความร้อนไม่ดี หรือฟิล์มเคลือบโลหะที่อาจจะเกิดปัญหาเรื่องการสะท้อนและยังอาจรบกวนสัญญาณ GPS เราจึงขอแนะนำฟิล์มที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้

1. ฟิล์มเซรามิก (Ceramic Film)

ฟิล์มเซรามิกเป็นฟิล์มที่ใช้อนุภาคเซรามิกในเนื้อฟิล์มเพื่อป้องกันรังสี UV และความร้อน โดยไม่รบกวนสัญญาณไฟฟ้า ข้อดีของฟิล์มประเภทนี้คือสามารถป้องกันความร้อนได้ดีมาก มีความทนทานสูง และไม่รบกวนสัญญาณ GPS หรือมือถือ แต่ราคาค่อนข้างสูง

2. ฟิล์มคาร์บอน (Carbon Film)

ฟิล์มคาร์บอนเป็นฟิล์มที่ใช้คาร์บอนในเนื้อฟิล์มเพื่อดูดซับความร้อนและป้องกันรังสี UV ข้อดีของฟิล์มประเภทนี้คือมีความทนทานสูง ป้องกันความร้อนได้ดี และไม่รบกวนสัญญาณไฟฟ้า แต่ราคาสูงกว่าฟิล์มสีและฟิล์มเคลือบโลหะ